6 แอพสตรีมมิ่งฟังเพลงยอดนิยมในไทยปี 2021

การฟังเพลง อาจจะเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน และการเรียนของใครหลาย ๆ คน ซึ่งเพลงที่เราชอบจะช่วยปลอบโยนและช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันก็มีแอพที่ใช้สตรีมมิ่งฟังเพลงกันมากมาย ที่สามารถใช้บริการได้ในประเทศไทย ซึ่งแต่ละแอพก็มีความพิเศษที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่กำลังหา แอพสรีมมิ่งเพลง แอพไหนดี วันนี้เราก็มี 6 แอพสตรีมมิ่งฟังเพลงยอดนิยมในไทยปี 2021 ที่สามารถใช้บริการได้ในบ้านเรา ทั้งยังมีความโดดเด่นในเรื่องเพลงที่แตกต่างกัน มาให้ได้ลองตัดสินใจหาแอพดี ๆ ไว้ฟังเพลงในเวลาที่เครียด

6 แอพสตรีมมิ่งฟังเพลงยอดนิยมในไทยปี 2021

1. Apple Music

แอพสตรีมมิ่งเพลงที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงที่ประเทศไทยที่มีคนเข้าใช้งานเป็นจำนวนมากอย่าง Apple Music ที่มาพร้อมจำนวนเพลง 30 ล้านเพลง ซึ่งเพลงสากลจำนวนมาก มีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลก 27 ล้านคน พร้อมใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน แม้ในช่วงแรกจะไม่มีเพลงไทยให้บริการมากนัก แต่ระยะหลัง Apple Music ได้ดีลเพลงไทยเข้ามาบริการมากขึ้นเรื่อย ๆ Apple Music จะมีฟังก์ชันหนึ่งเรียกว่า Beats 1 เป็นวิทยุออนไลน์ช่องพิเศษเฉพาะผู้ใช้แอพ นี้ ซึ่งถ้าหากไม่เสียค่าบริการก็จะใช้ได้เฉพาะฟังก์ชันวิทยุ Beats 1 เรียกได้ว่าเป็นแอพสตรีมมิ่งเพลงที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในบ้านเรา แต่เขาก็มีข้อจำกัดที่สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS และมีค่าสมัครสมาชิกราคา 129 บาท/เดือน ถือเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับหลาย ๆ แอพที่ออกมา

2. YOUTUBE MUSIC

แอพที่มีมานานมาก ๆ อย่าง YouTube  ก็ได้เปิดตัวฟังก์ชันใหม่ไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้กับแอพสตริมมิ่งเพลง YOUTUBE MUSIC ซึ่งช่วยค้นหาเพลงที่ต้องการได้ง่ายขึ้น รวมถึงค้นพบเพลงใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ รับฟังเพลย์ลิสต์และวิดีโอแนะนำ ที่จัดให้ตามความชอบและเพลงที่กำลังมาแรง บริการเพลงล่าสุดที่มีเพลงอย่างเป็นทางการจากศิลปินคนโปรดของคุณ ค้นหาเพลงที่ต้องการ ค้นหาอัลบั้ม ซิงเกิล การแสดงสด เพลงคัฟเวอร์ และรีมิกซ์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถค้นหาด้วยเนื้อเพลงท่อนที่จำได้เลย รับฟังเพลงแนะนำในแบบของคุณที่อิงตามความชอบ สถานที่ และช่วงเวลาของวัน

ติดตามเพลงที่กำลังฮิตด้วย “เพลย์ลิสต์ใหม่มาแรง” ซึ่งในตอนนี่เขาสามารถสมัครสมาชิกเป็น YouTube Music Premium ที่สามารถฟังเพลงแบบไม่จำกัดโดยไม่มีโฆษณา เล่นเพลงต่อเมื่อล็อกหน้าจอหรือใช้แอพอื่น ๆ ดาวน์โหลดเพลงและเพลย์ลิสต์โปรดด้วยตนเอง หรือให้เราดาวน์โหลดให้ด้วยการเปิดใช้ มิกซ์เทปออฟไลน์ได้ ซึ่งมีค่าบริการ 159 บาท/เดือน แถมยังใช้งานได้ทั้งบน PC และมือถือเป็นแอพที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันอยู่แล้ว

3. JOOX

แอพฟังเพลงฟรีสุดฮิตที่หลาย ๆ คนน่าจะมีติดเครื่องกัน เพราะสามารถฟังเพลงได้ทั้งฟรี และสมัครสมาชิกอย่าง JOOX แอพสีเขียวที่เปิดให้บริการสตรีมมิ่งเพลงตั้งแต่ปี 2015 มีเพลงหลายล้านเพลง มีคลังเพลงโดดเด่นในเรื่องเพลงไทยและเอเชียจำนวนมาก สาวกเกาหลีก็ห้ามพลาด เพราะเขาอัพเดทเพลงตลอดเวลา สามารถดูเนื้อเพลงได้ มีระบบฟังฟรี ระบบสมาชิกของ JOOX เข้าใจง่าย คือ VIP สามารถฟังได้ทุกเพลงแบบไม่มีโฆษณาคั่น ส่วนใครที่ไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถฟังได้บางเพลง อีกทั้งยังมีการจัดโปรโมชันสำหรับผู้ที่แชร์เพลงจาก JOOX ลงบนโซเชียลมีเดีย 1 ครั้งจะได้สิทธิเป็นสมาชิก VIP 1 วัน จึงมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งยอมแชร์เพลงทุกวันเพื่อให้ได้สิทธิฟรี ทำให้มีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งบอกเลยว่าเป็นแอพที่คุ้มค่ามาก ๆ ส่วนค่าสมัครสมาชิกของเขามีราคา 129 บาท/เดือน เป็นราคาทั่วไปของแอพสตรีมมิ่งเพลง

4. Spotify

แอพสุดฮิตที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในบ้านเรานั่นก็คือ Spotify แอพสตรีมมิ่งเพลงที่รวบรวมเพลงไว้หลากหลากหลายถูกใจคนไทยสุด ๆ เพราะเขามีเพลงมากถึง 30 ล้านเพลง เป็นบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ที่มีผู้ลงทะเบียน 140 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 2 อีกทั้ง Spotify ยังมีจุดเด่นเรื่องเพลงสากลที่มีจำนวนมาก ใครที่เป็นแฟนเพลงฝั่งตะวันตกต้องไม่พลาดแน่ ๆ และเขาก็มีเพลงไทยเยอะเช่นเดียวกัน Spotify สามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมฟังเพลงเพื่อนำมาวิเคราะห์แล้วนำเสนอเพลงและ Playlists เพลงที่เราน่าจะสนใจทุกสัปดาห์ สามารถสร้าง Playlists แนะนำเฉพาะบุคคลได้ ส่วนระบบการฟังฟรีของ Spotify ก็จะมีโฆษณาที่ทุกๆ 30 นาที สำหรับใครที่รำคาญโฆษณาก็สามารถสมัครสมาชิกกับเขาได้ในราคา 129 บาท/เดือน ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ

5. Deezer

แอพสตรีมมิ่งเพลงที่เราอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก แต่ก็เป็นแอพที่นิยมไปทั่วโลก และในบ้านเราก็มีคนใช้บริการแอพสตรีมมิ่งเพลง Deezer เช่นเดียวกัน ซึ่ง Deezer เป็นหนึ่งในบริการสตรีมมิ่งเพลงแรกๆ ที่เปิดให้บริการบนโลก ก่อตั้งโดย Daniel Marhely และ Jonathan Benassaya ในปี 2007 ที่ประเทศฝรั่งเศส เข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อปี 2012 โดยจัดโปรโมชันร่วมกับดีแทค มีคลังเพลงจำนวนเพลง 43 ล้านเพลง มีเพลงสากลจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบเพลงสากลต่างใช้บริการกันมากมาย แต่อาจจะไม่ค่อยถูกใจเหล่าแฟนเพลงไทยและเอเชียมากนัก

ระบบการฟังฟรีมีข้อจำกัด คือ ไม่สามารถเลือกฟังเฉพาะเพลงที่ต้องการได้จึงต้องเลือกฟังเพลงทั้งหมดใน Playlists และจะกดข้ามเพลงได้เพียง 6 ครั้งต่อชั่วโมง รวมไปถึงจะมีโฆษณามาอยู่ตลอด ซึ่งใครที่อยากจะลองใช้บริการสตริมมิ่งเพลง Deezer นั้นเขาก็มีค่าบริการราคา 155 บาท/เดือน ซึ่งเป็นค่าบริการที่เท่ากันกับ YOUTUBE MUSIC

6. SOUNDCLOUD

แอพสตรีมมิ่งเพลงสำหรับคนที่รักในการฟังเพลง และการทำเพลงซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีผู้ใช้งานจำนวนมากอย่าง SOUNDCLOUD บริการสรีมมิ่งเพลงฟรีที่เราสามารถเป็นได้ทั้งผู้ฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถอัปโหลดเพลงตัวเองลงบนแอพได้อีกด้วย มาพร้อมเพลงใหม่จากเหล่าศิลปินหน้าใหม่ที่มักจะลงเพลงให้ฟังแบบฟรี ๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นเพลงที่ไม่สามารถหาฟังได้จากแอปสตรีมเพลงเจ้าอื่น แอพมี Tag ในการค้นหาแนวเพลงที่ชื่นชอบ สามารถติดตามศิลปินหน้าใหม่ที่มาลงเพลงกันให้ฟังได้

หน้าตาของแอปพลิเคชันใช้งานง่าย ติดตามทุกเพลงที่อยู่ในกระแสได้ไม่พลาด หรือสามารถหาคลิปเสียงดัง ๆ จากแฮชแท็กยอดนิยมได้ด้วย ซึ่ง SOUNDCLOUD เปิดให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่ว่าจะฟังเพลงหรือจะลงเพลงของตัวเอง จึงเป็นแอพสตรีมมิ่งเพลงที่ชาวทำเพลงต่างชื่นชอบมาก ๆ

แอพสตรีมมิ่งเพลงในปัจจุบันนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลาย ๆ แอพเริ่มทยอยเข้ามาเปิดตลาดในบ้านเราทำให้เรามีแอพสตรีมมิ่งเพลงให้เลือกหลายแอพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลาย ๆ แอพก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันให้เราได้เข้าไปเลือกใช้บริการตามสไตล์และความชอบของเรา ซึ่งบางแอพก็มีทั้งบริการฟรี และมีสมัครสมาชิกให้ได้เลือกใช้ 6 แอพสตรีมมิ่งฟังเพลงยอดนิยมในไทยปี 2021 ที่ได้ทำความรู้จักกันไปนั้นก็สามารถไปลองโหลดมาฟังตามความชอบได้

นอกจากแอพสตรีมมิ่งเพลงที่สามารถหาฟังได้ง่าย ๆ ในยุคออนไลน์แบบนี้ ก็ยังแอพพลิเคชั่นที่อนวยความสะดวกอีกหลานประเภท อย่างในช่วงโควิด-19 แบบนี้ที่เราไม่สามารถออกไปไหนตามใจชอบได้ สำหรับสายช้อปที่อยากจะช้อปปิ้งผ่อนคลายความเครียด 7 แอปช้อปปิ้งออนไลน์ แบบสบาย ๆ ที่บ้าน สามารถช่วยให้คุณช้อปปิ้งได้แบบสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น

และสำหรับใครที่อยู่บ้านกักตัวนาน ๆ แล้วอยากจะหางานอดิเรกทำแก้เครียดเช่น การทำวิดิโอ ยูทูปเบอร์ หรือแอพโด่งดังอย่างติ๊กต๊อก 7 โปรแกรมตัดวิดีโอฟรี ขวัญใจมือใหม่ 2021 เป็นแอพที่มือใหม่สายตัดต่อสามารถทำได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังช่วยแก้เครียดได้ ฝึกทักษะใหม่ ๆ ช่วงกักตัวได้เป็นอย่างดี